Trip to Laos

“สะบายดีค่ะ” ขอทักทายด้วยภาษาลาวนะคะ เพราะว่าเพิ่งกลับจากลาวมา เป็นทริปที่สนุกมาก ทริปนี้ไปกับคณะครูที่โรงเรียนค่ะ นั่งรถบัสประมาณ 10 กว่าชั่วโมง ถึง จ.หนองคาย คณะเราข้ามแดนไปยังนครเวียงจันทร์ (Vientiane) โดยรถบัสลาว มีไกด์สาวชาวลาวเป็นผู้นำเที่ยว น้องไกด์น่ารักมากค่ะ บรรยายข้อมูลเกี่ยวกับลาวเยอะแยะมากมาย แถมยังแนะนำเรื่องการซื้อของ การต่อรองราคาของ รวมทั้งแนะนำเรื่องการใช้โทรศัพท์ในลาว 2 วิธีคือ 1. เปิดโรมมิ่ง 2. ซื้อซิมลาวใช้ แต่ถ้าไม่ทำอะไร แต่เปิดโทรศัพท์ไว้ แค่มีข้อความเข้าก็จะเสียนาทีละ 20 กว่าบาท ถ้ารับสายจะเสียนาทีละ 30 กว่าบาท และถ้าโทรออกก็จะเสียนาทีละ 40 กว่าบาท  กดสายทิ้งก็ยังเสียอีกค่ะ ก็เลยปิดโทรศัพท์ซะเลย

ที่แรกที่เราไปเยือนก็คือ ร้านช็อปปิ้ง ไกด์พาเราไปละลายทรัพย์ก่อนเป็นอันดับแรก เราก็เลยได้ของติดไม้ติดมือมานิดนึง เพราะยังมีที่ที่ต้องไปอีกเยอะ จากนั้นไกด์ก็พาคณะไปยังหอคำ หรือพิพิธภัณฑ์หอพระแก้ว (Ho Phra Keo or Temple of the Emerald Buddha) เป็นสถานที่ที่เคยประดิษฐาน พระแก้วมรกต หรือ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร  ปัจจุบันเหลือเพียงพระแท่นที่ประดิษฐาน เพราะพระแก้วมรกตองค์ปัจจุบันได้รับการอัญเชิญลงมาประทับที่กรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ยังจัดแสดง พระแท่นบัลลังก์ปิดทองจารึกพระไตรปิฏก ภาษาขอมและกลองสำริดประจำราชวงศ์ลาว พระพุทธรูปเขาดูแปลกๆ แต่ก็สวยไปอีกแบบ

จากนั้นเราก็ไปนมัสการเจ้าแม่ศรีเมือง ซึ่งตั้งอยู่ในวัดศรีเมือง (Wat Si Muang) เป็นวัดที่ศักดิ์สิทธิ์มีคนลาว-ไทย  และชาวต่างประเทศไปสักการบูชา กราบไหว้เพื่อเป็นสิริมงคล ผู้มาเยือนมักจะเสี่ยงทายดวงชะตา ตามตำนานเล่าต่อ ๆ กันมา ขออะไร มักสมหวังดังปรารถนา ไกด์บอกว่าใครอธิษฐานขออะไรก็จะได้ค่ะ แต่ให้ใช้คำว่า”ขอ” แทนคำว่า “บน”  เพราะถ้าใช้คำว่า “บน” แล้วเกิดได้จริง ก็จะต้องกลับมาแก้บนที่ลาวค่ะ ก็เลยใช้คำว่า “ขอ” หลายอย่างเลย ^-^

  

มื้อแรกในลาวเป็นมื้อกลางวัน อาหารก็เหมือนกับไทยเรานี่แหละค่ะ แต่รสชาติต่างกันนิดหน่อย ลาบอีสานจะเผ็ดมาก ใส่พริกเป็นท่อนๆ เลย ต้มแซ่บก็แซ่บหลาย

ทานอาหารเสร็จก็เข้าที่พัก เขาให้เราพักโรงแรมสี่ดาว ก่อนที่จะมาลาว มีครูคนหนึ่งบอกว่า โรงแรมสี่ดาวและห้าดาวเขาจะเหมือนกับโรงแรมบ้านเราเมื่อหลายสิบปีก่อน แต่พอไปถึง กลับตรงกันข้าม ห้องพักสะอาด สวยงาม น่านอนมากค่ะ วิวก็สวย เราอาบน้ำแต่งตัวแล้วไปดูงานที่โรงเรียนมัธยมสมบูรณ์ศาลาคำ โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนมัธยม มีตั้งแต่ชั้น ม.1-7 ม.ต้นเขาคือ ม.1- ม.4 ส่วน ม.5-7 เป็น ม.ปลาย นักเรียนเยอะมาก การแต่งกายจะเป็นเชิ้ตแขนสั้นและยาวสีขาวทั้งชายหญิง ชายจะนุ่งกางเกงขายาว ส่วนหญิงจะนุ่งผ้าถุง ส่วนรองเท้าหลากหลาย ผ้าใบบ้าง คัชชูบ้าง รองเท้าแฟชั่นบ้าง

   

เขาเริ่มเทอมแรกตอนเดือนกันยายน ถึงเดือนมกราคม  ส่วนเทอมสองจะเริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมิถุนายน  ในแต่ละวันนักเรียนจะเริ่มเรียนตอน 8.30 – 11.30 จากนั้นก็พักประมาณสองชั่วโมง แล้วกลับมาเรียนอีกทีเวลา 14.00 – 16.30 น. เวลาพักตั้ง 2 ชั่วโมงครึ่งแน่ะค่ะ

จากนั้นเราก็ไปเที่ยวที่อนุสาวรีย์ประตูชัย (Patuxai) เป็นอนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวผู้เสียสละชีวิตในสงครามก่อนหน้าการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์ การออกแบบลักษณะสถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลของประตูชัยในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เจ้าอาณานิคมในสมัยนั้น แต่ลักษณะสถาปัตยกรรมก็ยังมีเอกลักษณ์ของลาวปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปศิลปะลาว ภาพเรื่องราวมหากาพย์รามายณะ แบบปูนปั้นใต้ซุ้มประตูโค้งของประตูชัย แบบศิลปะที่รับอิทธิพลจากอินเดีย และล้านช้าง ยิ่งใหญ่จริงๆ ค่ะ ใครไม่ได้เอากล้องไป เขาก็มีบริการถ่ายรูปให้มีหลายราคาให้เลือก

มื้อเย็น มีพิธีบายศรีสู่ขวัญสำหรับผู้มาเยือนด้วยค่ะ คล้ายๆ กับพิธีบายศรีในบ้านเรา เดินออกจากโรงแรมจะขึ้นรถไปเที่ยวตลาดไนท์ เจอแม่ค้านั่งขายของอยู่ พากันไปดู เจอของเหมือนกับที่ซื้อมาเมื่อเช้า แต่ราคาถูกกว่า ก็เลยพากันซื้ออีกรอบจากนั้นไกด์ก็พาคณะไปช็อปปิ้งที่ตลาดไนท์ริมฝั่งโขง ตรงนี้มีสัญญาณ DTAC สามารถเปิดโทรศัพท์โทรได้ แต่ไม่ได้ใช้ DTAC เลยอดโทรเลยค่ะ บรรยากาศบริเวณตลาดไนท์ดีมากเลย อากาศเย็นสบาย แต่ก็ไม่ได้ถ่ายรูป เพราะมัวแต่ไปซื้อของฝากอีก ซื้อเสร็จไกด์ก็เรียกขึ้นรถทันที

ตื่นเช้าก่อนออกจากโรงแรมก็ยังสนุกสนานกับการซื้อของที่เขาเอามาขายข้างๆ โรงแรมอีก ไกด์พาคณะเราไปนมัสการพระธาตุหลวง (Phra That Luang) ซึ่งเป็นโบราณสถานที่สำคัญมากของนครเวียงจันทร์ และเป็นศูนย์รวมใจของประชาชนชาวลาวทั่วประเทศ องค์พระธาตุมีความสูง 45 เมตร รูปลักษณะคล้ายดอกบัวตูม อันหมายถึงสัญลักษณ์คำสอนของพระพุทธเจ้า มีพระธาตุเล็กอยู่บนพระธาตุใหญ่ชั้นที่สอง รองทั้งสี่ด้าน มี 30 องค์เรียกวา “สัมมติงสบารมี” อยู่ในธาตุองค์เล็กทั้ง 30 องค์นี้ การที่ได้สร้างพระธาตุขนาดเล็กนี้ขึ้นมา มีความหมายว่า “ผู้ที่จะได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น จะต้องได้สร้างคุณงามความดีไว้ให้ถึง 30 ประการ มีทานบารมี เป็นต้น จนถึงอุเบกขา ปรมัตถบารมีเป็นปริโยสาน”

นอกบริเวณทางทิศเหนือ และทางทิศใต้ มีวัดสำหรับพระภิกษุสามเณรอยู่อาศัย เรียกว่า “วัดธาตุหลวงเหนือและวัดธาตุหลวงใต้” วัดเขาสวยมากค่ะ เหมือนพระราชวังเลย

ประทับใจทุกที่ที่ไปค่ะ เสียดายที่มีเวลาน้อย เลยไม่ได้ไปทั่วทุกที่ในเวียงจันทร์ ไกด์สาวลาวส่งเราถึงตรงจุดผ่านแดน รู้สึกใจหายเหมือนกันค่ะที่ต้องจากกัน ก็น้องไกด์ทั้งน่ารักและก็พูดเก่งมาก โอกาสหน้าฟ้าใหม่ หวังว่าจะมีโอกาสได้ไปอีก ขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วมทำให้ทริปนี้สนุกสนาน ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

Posted on 20/09/2012, in ทั่วไป and tagged , , . Bookmark the permalink. ใส่ความเห็น.

ใส่ความเห็น